- ผู้ป่วยยืนยัน 2,966 คน (เพิ่ม 6 คน )
- หายป่วยแล้วรวม 2,732 คน (เพิ่ม 13 คน )
- รักษาตัวอยู่ รพ. 180 คน
- เสียชีวิตรวม 54 คน
วิเคราะห์ผู้ป่วยรายใหม่ 6 คน
- มีประวัติใกล้ชิดกับผู้ป่วยก่อนหน้า 2 คน อยู่ในพื้นที่ภูเก็ต 1 คน กทม. 1 คน
- ค้นหาเชิงรุกใน จ.ภูเก็ต 2 คน
- เดินทางจากอินเดีย 1 คน ญี่ปุ่น 1 คน
- ไทยมีผู้ป่วยสะสมอยู่ที่อันดับ 60 ของโลก
สถานการณ์ในเอเชีย
- อินเดียตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มขึ้นวันเดียว 2,394 คน ทำให้ผู้ป่วยสะสมถึงกว่า 37,000 คน
- ปากีสถานมีผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 1,000 คน
- เกาหลีใต้ผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นวันเดียว 6 คนเท่าไทย
- การฝ่าฝืนเคอร์ฟิว พบผู้ออกนอกเคหสถานโดยไม่มีเหตุสมควร 519 คดี และชุมนุมมั่วสุม 75 คดี โดยมากที่สุดยังเป็นการเล่นการพนัน
- มาตรการที่ออกมาภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในช่วง เม.ย. เน้นความเข้มงวดเพื่อป้องกัน COVID19 ทำให้มีผลกระทบกับการดำเนินชีวิต และด้านเศรษฐกิจ
- มาตรการในระยะที่ 2 ของเดือน พ.ค.นี้ จะเริ่มตั้งแต่ 3 พ.ค.นี้ โดยกำหนดว่าช่วง 14 วัน จะคงด้านสาธาณสุขเป็นหลัก และมีการประเมินมาตรการต่างๆ ในกิจกรรมที่ผ่อนปรน
- การออกกำลังกายกลางแจ้ง เปิดเพราะคนยังมีโรคภัยอื่นๆ สิ่งสำคัญต้องทำให้ร่างกายแข็งแรง แต่ยังจำกัดกีฬา บางประเภท เช่น ทำไมเล่นเทนนิสได้ เพราะต้องเล่นในพื้นที่อากาศถ่ายเท แต่ไม่อนุญาตว่ายน้ำ และแบดมินตัน สวนสาธารณะให้เดิน -วิ่งได้ รวมถึงรำไทเก๊ก ก็ทำได้
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เปิดขายได้ตั้งแต่ 3 พ.ค.นี้ แต่ขึ้นอยู่กับอำนาจของจังหวัด รวมทั้ง กทม. อนุญาตให้ทุกร้านขาย แต่ถ้าพบมีปัญหาก็ให้อำนาจสั่งปิด ส่วนซื้อไปแล้วจะส่งผลต่อการมั่วสุม ก็ย้ำให้ขอความร่วมมืองดดื่มสุราที่ร้าน